วิธีทำ หมูม้วนซอสเทอริยากิ
ช่วงนี้เราเชื่อว่าหลายคนน่าจะได้อยู่บ้านประจำ จนแปรสภาพจากแค่ลองทำกับข้าว จนกลายเป็นคนทำอาหารแบบช่ำชองกันเลยทีเดียว เมนูหมูทอด น่าจะเป็นเมนูยอดฮิตของใครหลายบ้าน ที่เราเชื่อว่า หมูทอดแบบเดิมๆ น่าจะกินกันจนเบื่อแล้ว อยากจะลองแบบอื่นบ้าง เรามีเมนูแนะนำมาฝากกัน นั่นก็คือ หมูม้วนซอสเทอริยากิ แค่ชื่อก็น่ากินแล้วใช่ไหม วิธีการทำเป็นอย่างไร เราจะมาแนะนำให้รู้จักกัน
วัตถุดิบ
เรามาดูวัตถุดิบกันก่อน บอกเลยว่าเมนูนี้วัตถุดิบหาง่ายมาก จะซื้อที่ตลาดสด หรือ ตลาดในห้างก็ได้เหมือนกัน วัตถุดิบสำคัญก็มีจะมี สันคอหมู , เกลือ, พริกไทย, หน่อไม้ฝรั่งต้ม, แครอทต้ม, พริกหวานสีแดง, เนยสดรสจืด (ไม่ควรเอาเนยเค็ม เพราะจะทำให้หมูเค็มเกินไป ไม่อร่อย) ซอสเทอริยากิ
วิธีการทำ
ขั้นตอนการทำ เริ่มต้นจากการเตรียมไส้ของหมูก่อนด้วยการหั่นแครอทเป็นทางยาว พริกสีแดงด้วยหั่นเป็นลักษณะเดียวกัน จากนั้นนำไปต้มให้พอสุก ทั้งสามอย่าง หน่อไม้ฝรั่ง, แครอท, พริกหวานสีแดง พอสุกแล้วเอาขึ้นมาพักให้เย็น คำแนะนำก็คืออย่าต้มให้สุกมาก เพราะมันจะเละ เอาให้แค่พอจะสุกเพื่อให้มันแข็งตัว แล้วพอเอาไปทอดจะสุกพอดี
เมื่อไส้พร้อมแล้ว ก็มาจัดการกับหมูสันคอ หั่นเป็นแผ่นบางเพื่อจะได้ม้วนได้ ตรงนี้อาจจะใช้สมาธิและความชำนาญสักหน่อย พอจัดการหมูเรียบร้อย ก็เอามาม้วนโดยให้ ไส้ทั้งสามอย่างของเราอยู่เป็นแกนกลาง จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ให้เรียบร้อย พอม้วนเสร็จแล้วให้เอาไม้จิ้มฟันปักเอาไว้ทั้งหัวท้าย เพื่อรั้งให้ไส้ไม่ทะลักออกมา พอทำเสร็จเรียบร้อย ควรทำอย่างน้อยสัก 3-5 ชิ้นเป็นโรลสวยงาม ก็ถึงขั้นตอนสำคัญก็คือการทอด ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่เนยจืดแทนน้ำมันพืช จากนั้นก็เอาหมูลงไปทอด หรี่ให้เหลือไฟกลาง แล้วทาซอสเทอริยากิพร้อมกับพลิกกลับไปมา ระวังหมูติดกระทะ คำแนะนำในขั้นตอนนี้ก็คือ อย่าพลิกกลับไปมาบ่อยอาจจะทำให้ไส้ทะลักหลุดมาได้ แนะนำว่าควรพลิกดูว่าสุกแล้วค่อยกลับด้าน พอสุกทั่วทั้งชิ้นให้ตักขึ้นจานพร้อมเสิร์ฟได้เลย ส่วนวิธีการเสิร์ฟ เมนูนี้ถือว่าเป็นเมนูที่กินกับอะไรก็ได้ จะกินคู่กับข้าว ก็อร่อย กินคู่กับขนมปังก็ได้ หรือจะกินเล่น เป็นอาหารจานเนื้อ แบบสเต็ก ก็ทำได้เหมือนกัน
คำแนะนำ
หากจะให้บอกถึงคำแนะนำสำหรับเมนูนี้ ควรทำการหมักหมูไว้ก่อนสัก 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้เครื่องปรุง พริกไทย น้ำซอสเทอริยากิ เข้าเนื้อมากขึ้นจะทำให้อร่อยมาก สองหากเป็นการทำเมนูนี้สำหรับเด็ก อาจจะต้องเอาพริกหวานออก แล้วเติมผักชนิดอื่นลงไปแทน(ควรเตรียมซอสมะเขือเทศ หรือ ซอสบาร์บีคิวไว้ด้วย หรือซอสจิ้มแจ่ว สำหรับคนกลัวเลี่ยน) แต่ถ้าหากทานเผ็ดได้ก็จัดไปเลย ในกรณีที่หากพริกหวานไม่เจอ อาจจะใส่พริกหยวกลงไปแทนได้ แต่รสชาติจะเผ็ดมากขึ้นดังนั้นตอนปรุงพริกไทย อย่าใส่เยอะเมื่ออย่างนั้นจะเผ็ดเกินไป ในกรณีที่เสิร์ฟแล้วกินพร้อมกันหลายคนอาจจะต้องหั่นเป็นชิ้นพอดีคำอีกครั้ง เพื่อให้คีบตักกินได้ง่าย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทำง่าย กินง่าย อร่อยด้วย ใครที่กำลังมองหาเมนูใหม่ๆ ที่ไม่ใช่หมูทอดแบบเดิม ลองนำเมนูนี้ไปปรับใช้ดูได้ น่าจะถูกใจทุกคนในครอบครัว ยิ่งถ้าบ้านไหนมีปัญหาลูกไม่ยอมกินผัก ลองดูเมนูนี้อาจจะช่วยได้เพราะมันต้องกินเป็นคำทั้งเนื้อและผัก